พด. หนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯตรัง ผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง มุ่งลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรชาวสวนยาง


วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565
จ.ตรัง

           พด. เร่งเดินหน้าขับเคลื่อน โครงการส่งเสริมผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงทดแทนปุ๋ยเคมีราคาแพง มุ่งลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมชู จ.ตรัง เป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างเครือข่ายการผลิตและการตลาดที่เข้มแข็ง ยกระดับอาชีพและรายได้ให้ชุมชนแบบยั่งยืน

           เมื่อวันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นายศรีศักดิ์ ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมผลดำเนินงานโครงการการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรกรมพัฒนาที่ดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมีราคาแพง(ปุ๋ยอินทรีย์ตราพะยูน) ในพื้นที่จังหวัดตรัง พร้อมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ซื้อ-ขายปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรกรมพัฒนาที่ดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมีราคาแพงฯ ระหว่างวิสาหกิจชุมชนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง จ.ตรัง และการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)จังหวัดตรัง ณ วิสาหกิจชุมชนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง

           นายศรีศักดิ์ ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 เปิดเผยว่า... “จากสถานการณ์ปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง การขาดแคลนปุ๋ย เนื่องจากประเทศผู้ผลิตลดปริมาณการส่งออกปุ๋ยเคมีทำให้อุปสงค์ลดลงแต่อุปทานมีมากขึ้น จึงทำให้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาสูงขึ้นส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นข้อจำกัดต่อการตัดสินใจในการผลิตของเกษตรกร ในความต้องการบำรุงพืช ประกอบกับกำลังผลิตปุ๋ยเคมีของประเทศไทยยังมีจำกัด กรมพัฒนาที่ดินโดยกองเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน จึงได้ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาการนำจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินนำมาใช้ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ต่างๆ ทั้งปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ สารป้องกันแมลงและกำจัดโรคและสารบำบัดน้ำเสียซึ่งสามารถนำไปทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดโรคและแมลงได้”

           นอกจากนี้ ผลจากการวิจัยของนักวิชาการเกษตรกรมพัฒนาที่ดิน พบว่าการสำรวจในสภาพพื้นที่ซึ่งมีลักษณะนิเวศวิทยาที่แตกต่างกัน จะมีชนิดและปริมาณของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่มากมายมีความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งสามารถจำแนกชนิด คัดเลือกสายพันธุ์จุลินทรีย์ นำมาใช้ประโยชน์สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพตอบสนองวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์ทั้งด้านการปรับปรุงบำรุงดิน และส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่ สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 สำหรับผลิตปุ๋ยหมัก สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 สำหรับผลิตน้ำหมักชีวภาพ จุลินทรีย์สำหรับพืชปรับปรุงดิน พด.11 (โสนอัฟริกัน และปอเทือง) ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 และ พด.13 ไมคอร์ไรซาสำหรับข้าวโพด การใช้จุลินทรีย์ควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช ได้แก่ สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 สำหรับผลิตเชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรครากและโคนเน่าของพืช สารเร่งซุปเปอร์ พด.7 สำหรับผลิตสารควบคุมแมลงศัตรูพืช พด.14 ไตรโคเดอร์มา การใช้ฟื้นฟูสภาพนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สารเร่งซุปเปอร์ พด.6 ผลิตสารบำบัดน้ำเสีย ขจัดกลิ่นเหม็นและกำจัดลูกน้ำยุงรำคาญ ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์สารเร่งจุลินทรีย์เหล่านี้ จึงเป็นการใช้นวัตกรรมทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ซึ่งตอบสนองความต้องการของเกษตรกรในสภาวะที่ปุ๋ยเคมีมีราคาแพง

           นายศรีศักดิ์ ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 กล่าวต่อว่า... “ที่ผ่านมากรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินการถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมหมอดินอาสาและเกษตรกรเครือข่ายภายใต้โครงการการใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการเกษตรให้บริการปัจจัยการผลิตด้านผลิตภัณฑ์สารเร่งจุลินทรีย์ต่างๆ ผ่านทางสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด มีศูนย์ถ่ายทอดความรู้ซึ่งดำเนินงานโดยหมอดินอาสากระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และได้ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพแก่เกษตรกรเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรโดยส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์สารเร่ง พด. ที่หลากหลาย”

           ปัจจุบันกรมพัฒนาที่ดินมีพด.1 - พด.14 ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์เหล่านี้กรมพัฒนาที่ดินสนับสนุนสู่เกษตรกรเพื่อใช้เป็นปัจจัยในการนำไปผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพสูง ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี น้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ สารป้องกันแมลงศัตรูพืช และจุลินทรีย์ควบคุมโรคพืช สามารถนำไปใช้ในการปลูกพืชต่างๆ ทำให้ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมี จึงนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิต ที่สำคัญยังช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรได้อย่างยั่งยืน

           ทั้งนี้ กรมพัฒนาที่ดิน มีนโยบายในการส่งเสริมเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ลดการใช้ปุ๋ยเคมีราคาแพง เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้านการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร โดยที่ผ่านมาได้ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมหมอดินอาสาและเกษตรกรเครือข่ายภายใต้โครงการการใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการเกษตรให้บริการปัจจัยการผลิตด้านผลิตภัณฑ์สารเร่งจุลินทรีย์ต่างๆ ผ่านทางสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด มีศูนย์ถ่ายทอดความรู้ซึ่งดำเนินงานโดยหมอดินอาสากระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งตอบสนองความต้องการของเกษตรกรในสภาวะที่ปุ๋ยเคมีราคาแพงได้เป็นอย่างดี

           สำหรับ สถานีพัฒนาที่ดินตรังถือเป็นพื้นที่ต้นแบบที่ประสบความสำเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนในการส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรกรมพัฒนาที่ดินเพื่อลดการใช้สารเคมีจนเป็นที่ยอมรับของเกษตรกรในจังหวัดตรังอย่างกว้างขวาง โดยผ่านการถ่ายทอดความรู้ให้กับเครือข่ายหมอดินอาสาจากนั้นขยายผลต่อไปยังเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตรัง จนเกิดเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงจังหวัดตรังและเครือข่ายรวม 11 ราย ช่วยยกระดับสร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับเกษตรกรผู้ผลิตปุ๋ยให้มีรายได้อีกทางหนึ่ง

           โดยจุดเริ่มต้นความสำเร็จของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงฯ จังหวัดตรังและเครือข่าย เริ่มต้นจากการผลิตเพื่อใช้เอง หลังจากนั้นนายพรชัย ชั้นสกุล ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ของจังหวัดตรัง มีวัสดุคือมูลไก่ค่อนข้างเยอะ จึงมีแนวคิดในการนำมูลไก่มาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ประกอบด้วยจังหวัดตรังมีโรงงานผลิตน้ำยางและโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันหลายแห่ง ซึ่งโรงงานเหล่านี้มีกากตะกอนหรือมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่สามารถนำมาผลิตปุ๋ยหมัก ผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ทางสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดตรังและหมอดินอาสาจึงได้เข้ามาถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับกลุ่มและเครือข่ายจนเกิดความเข้มแข็งและได้เจรจาซื้อขายผลผลิตปุ๋ยกับกยท.ตรัง จนเป็นตลาดหลักในการรับซื้อจนถึงปัจจุบัน

           รายงาน :  กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน 
           ภาพ :  กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน 
ชมห้องภาพ

ก่อนหน้ารายการหลัก •: ถัดไป