ลงพื้นที่ติดตามงานและรับฟังการบรรยาย ในพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี


วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี

           วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ ร่วมคณะ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานฯ ในการลงพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ในเวลา 09.45 น. เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ การนี้ได้รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ซึ่งโครงการฯ ได้ริเริ่มดำเนินการสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2523 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริในการพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพะยา เพื่อเก็บกักน้ำสนับสนุนโครงการฝายทดน้ำลำพะยา ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกของราษฎรสามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี นอกจากนั้น ยังจะช่วยบรรเทาอุทกภัยสำหรับพื้นที่เพาะปลูกในเขตโครงการฝายทดน้ำลำพะยาอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยแผนการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2567 เมื่อการก่อสร้างสำเร็จจะสามารถส่งน้ำสนับสนุนเพื่อการอุปโภค บริโภคให้แก่ราษฎรในพื้นที่ตำบลลำพะยา จำนวน 7 หมู่บ้าน 500 ครัวเรือน รวม 2,500 คน และตำบลลำใหม่ จำนวน 2 หมู่บ้าน 170 ครัวเรือน รวม 950 คน รวมทั้งส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร จำนวน 8,100 ไร่ ประกอบด้วย ตำบลลำพะยา ตำบลลำใหม่ ตำบลพร่อน ตำบลลิมุด มีน้ำใช้เพื่อประกอบอาชีพได้อย่างสมบูรณ์ โอกาสนี้ องคมนตรี ได้ร่วมปลูกต้นไม้บริเวณพื้นที่ด้านหน้าอาคารเพื่อสร้างร่มเงาและรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผืนดิน จากนั้นลงพื้นที่ดูสภาพพื้นที่โครงการฯ และพบปะราษฎรพูดคุยถึงความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ

            ต่อมาเวลา 11.15 น. องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการชลประทานยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งอยู่ในโครงการติดตามและขับเคลื่อนโดยในพื้นที่ภาคใต้มีจำนวน 14 โครงการ แบ่งเป็น โครงการที่พระราชทานพระราชดำริโดยตรง จำนวน 4 โครงการ และโครงการที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือ (ฎีกา) จำนวน 10 โครงการ ผลจากการติดตามและขับเคลื่อนของคณะอนุกรรมการฯ ที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันสามารถขับเคลื่อนโครงการไปแล้วจำนวน 8 โครงการ โดยมีโครงการที่สามารถใช้ประโยชน์ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรไปแล้ว อาทิ โครงการอาคารอัดน้ำบ้านเนินทองพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดระนอง โครงการอ่างเก็บน้ำทำนบ 1 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการระบบประปาโรงเรียนอนุบาลมุสลิมสตูล จังหวัดสตูล และโครงการระบบประปาโรงเรียนลุกมานุลฮากีม จังหวัดยะลา เป็นต้น นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา อีกด้วย

            จากนั้นเวลา 13.30 น. องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎรตำบลทรายขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านควนลังงา หมู่ที่ 4 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี การนี้ได้รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการฝายทดน้ำคลองช่องเรืออันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านต้นซ่าน (บ้านทรายขาวตก) หมู่ที่ 5 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการท่อระบายน้ำวังพลายบัวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โครงการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำบ้านทุ่งนาพร้อมระบบส่งน้ำ ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎรตำบลทรายขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านหลวงจันทร์ หมู่ที่ 2 บ้านควนลังงา หมู่ที่ 4 บ้านตกวัด หมู่ที่ 5 และบ้านลำอาน หมู่ที่ 6 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎรตำบลทรายขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2547 ณ วัดทรายขาว และพระราชทานพระราชดำริให้พิจารณาจัดหาแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรให้แก่ราษฎรตำบลทรายขาว ตามที่ราษฎรได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือในการก่อสร้างอาคารเก็บน้ำกลางคลอง ต่อมาในปี 2549 สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับกรมชลประทาน ดำเนินการสนองพระราชดำริโดยก่อสร้างอาคารน้ำตกอัดน้ำ จำนวน 5 แห่ง พร้อมท่อระบายน้ำปลายคลอง จำนวน 2 แห่ง เพื่อช่วยเหลือราษฎร และในปี 2561 กรมชลประทาน ได้ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 แห่ง ท่อระบายน้ำปากคลอง และจัดทำคลองระบายน้ำหินก่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำให้แก่ราษฎร โดยสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรทั้ง 4 หมู่บ้าน รวมพื้นที่จำนวน 800 ไร่ นอกจากนี้ราษฎรยังมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านควนลังงา ขึ้นเพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกคน

            โอกาสนี้ องคมนตรี และคณะ ยังได้รับฟังรายงานผลการบริหารจัดการน้ำจากโครงการฯ ของผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำ และได้ร่วมปล่อยปลาเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศน์และเป็นแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จากนั้นลงพื้นที่ดูสภาพพื้นที่โครงการฯ และพบปะราษฎรผู้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการฯ

           รายงาน :  สำนักรองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านบริหาร กรมพัฒนาที่ดิน 
           ภาพ :  สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักนายกรัฐมนตรี 
ชมห้องภาพ

ก่อนหน้ารายการหลัก •: ถัดไป