มณฑป กรุดเจริญ เรียบเรียง

                การทำเกษตรกรรมแบบไร่นาสวนผสม โดยทำการเพาะปลูกพืชหลายชนิดบนพื้นที่ทำกิน อาจเป็นเรื่องไม่น่าสนใจของผู้ทำเกษตรเชิงเดี่ยวที่หวังผลผลิตจำนวนมากในแต่ละครั้ง แต่การปลูกพืชชนิดเดียวเป็นเวลานานทำให้ดินเสื่อมโทรมได้ หากไม่เข้าใจวิธีการปรับปรุงอย่างถูกวิธี
                ถึงแม้การทำไร่นาสวนผสม อาจไม่ได้รับเงินก้อนโตแต่ นายสมอน วิระปิง หมอดินอาสาประจำตำบลชมพู อยู่ที่ 137 หมู่ 8 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ก็เริ่มทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสม โดยไม่ใช้สารเคมีมานานกว่า 20 ปีแล้ว เมื่อย้อนไปก่อนหน้านี้ ลุงสมอน เล่าว่า “สมัยก่อนที่นี่ดินดี ปลูกพืชผัก และไม้ผลเป็นหลักโดยใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว นานเข้าผลผลิตเริ่มต่ำลงต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการเดินทางขนส่งผลผลิตลำบาก หักค่าแรง ค่าสารเคมีแล้วไม่คุ้มทุน เลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เป็นช่างไฟฟ้า ได้ค่าแรงวันละ 160 บาท”
                หลังจากเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ลุงสมอน ตัดสินใจกลับมาทำการเกษตรอีกครั้งเพราะไม่อยากทิ้งผืนดินทำกินของตนเอง โดยมีแนวคิดทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสม ไม่ใช้สารเคมี ทำกินแบบพออยู่ พอกิน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ซึ่งในพื้นที่ 30 ไร่ เป็นไร่นาสวนผสม ปลูกไม้ผล เช่น ลำไย ทุเรียน ลองกอง ลิ้นจี่ ส้มโอ มะนาว กล้วย พืชผัก พืชสมุนไพร ไม้เศรษฐกิจ เลี้ยงปลา กบ เป็ด ไก่
                ในปี 2543 ลุงสมอนไปอบรมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้รู้จักหญ้าแฝกจากวิดีทัศน์ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ “เมื่อในหลวงท่านว่าดี ก็ต้องทดลอง ไปขอกล้าหญ้าแฝกจากสถานีพัฒนาที่ดินพิษณุโลกมาปลูก” ซึ่งพื้นที่เป็นที่ลาดเท และเนินชัน ไม่จ้างใครปลูกใช้แรงงานภายในครอบครัวการปลูกจึงค่อยข้างล่าช้า แต่ด้วยความตั้งใจพร้อมกับหาความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจนปี 2548 หญ้าแฝกในไร่นาสวนผสมก็ใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
                โดยทำการปลูกขวางความลาดเท เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน แถวหญ้าแฝกช่วยกักเก็บตะกอนดินและลดความแรงของน้ำที่ไหลจากเนินสูง ช่วยดูดซับน้ำกักเก็บไว้ในดินและพื้นที่ตอนบน เป็นการลดการสูญเสียธาตุอาหารพืชในพื้นที่ การปลูกเป็นแถวระหว่างไม้ผลช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุแก่ดิน รักษาความชื้นในดิน ช่วยให้ดินมีการระบายน้ำดีขึ้น ทำให้ดินโปร่งและระบายอากาศได้ดี เพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดิน ทำให้ไม้ผลมีความสมบูรณ์ ไม่เปลืองปุ๋ย ไม่ต้องรดน้ำมาก และนำใบหญ้าแฝกที่ตัดมาคลุมดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้น และผสมทำปุ๋ยหมัก
                จากการใช้ประโยชน์ของหญ้าแฝกที่เห็นได้อย่างชัดเจนในไร่นาสวนผสมของ สมอน วิระปิง สถานีพัฒนาที่ดินพิษณุโลก จึงได้คัดเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวดการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปี 2550 และเป็นอีก 1 ใน 11 บุคคลได้รับรางวัลประเภทการปลูก : บุคคล ในที่สุด “รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานให้พ่อหลวง แฝกเก็บความชื้นให้กับดิน ช่วยดูดสารพิษ เก็บกักน้ำ อนุรักษ์ดิน ดูดแร่ธาตุมาเป็นอาหารพืช”
                ในพื้นที่แห่งนี้ มีผู้มาเยี่ยมชมงานสม่ำเสมอทั้งในจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดใกล้เคียง ไปจนถึงชาวต่างชาติจากประเทศแอฟริกาใต้ อิหร่าน ญี่ปุ่น อีกเรื่องที่ลุงสมอน ภูมิใจมากคือ การได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จากการเป็นวิทยากรเรื่องไร่นาสวนผสม เกษตรปลอดสารพิษ และหญ้าแฝก ที่โรงเรียนบ้านรักไทยร่มเกล้าอุปถัมถ์
                ไร่นาสวนผสมนี้สร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละหมื่นกว่าบาทเพราะไม่เสียค่าแรงงาน ไม่ได้ซื้อปุ๋ย ลุงสมอนบอกว่า “ถ้าทำแบบเราไม่เดือนร้อน ทำกินเองก็อยู่ได้ ถ้ารู้จักพอ อยู่ได้สบาย ไม่มีสารเคมี ไม่เป็นโรค ทำอย่างนี้น้ำไม่ท่วม โลกไม่ร้อน”