อีกหนึ่งผู้รับโล่พระราชทานการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

มณฑป กรุดเจริญ เรียบเรียง

                “ปลูกหญ้าแฝกก็เหมือนได้วัคซีนป้องกันโรค กันไว้ก่อน ดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง” คำพูดประโยคนี้ คอยชี้แนะให้เกษตรกรที่เข้ามาขอรับความรู้เรื่องหญ้าแฝก จาก นิมิตร ทักโลวา เสมอ แต่ก่อนที่จะรู้จักกับหญ้าแฝก ผืนดินของนิมิตรก็เคยเป็นโรคร้ายมาก่อน
                ผืนดินที่เป็นมรดกจากบรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ นิมิตร ทักโลวา ที่บ้านนางัว ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เป็นเพียงที่ดินรกร้างประมาณ 21 ไร่ มีสภาพเป็นพื้นที่ลาดชัน นิมิตร เลือกทำการเกษตร เริ่มจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ประสบความล้มเหลวจากปัญหาโรคโคนเน่า จึงเปลี่ยนมาปลูก ฝรั่ง ลำไย มันสำปะหลัง สภาพดินที่ปลูกลำไยและฝรั่งเมื่อใส่ปุ๋ยและรดน้ำจะซึมลงดินน้อย ไหลเทอย่างรวดเร็วสู่พื้นที่ต่ำ ทำให้ใบเหี่ยว เจริญเติบโตช้า ต้องรดน้ำหลายครั้งใช้น้ำมาก บ่อน้ำที่ใช้ก็ตื้นเขินเป็นเลนสูบน้ำไม่ขึ้น น้ำมีกลิ่นเหม็น เนื่องจากดินถูกชะล้างลงไปในบ่อ ในช่วงหน้าแล้งต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำจากระยะทางไกล ส่วนพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังผลผลิตได้เพียง 1-2 ตันต่อไร่ พื้นที่ยังถูกน้ำฝนชะล้างพังทลาย เกิดเป็นร่องยาวลึกแยกผืนดินออกเป็น 2 ส่วน หน้าดินถูกชะล้างออกไปเกือบหมดดินแข็งต้องไถพรวนซ้ำหลายรอบถึงจะปลูกมันสำปะหลังได้
                ปลายปี 2545 นิมิตรไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ลดต้นทุนการผลิตมันสำปะหลัง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่นี่เขารู้จักกับ “หญ้าแฝก” ที่เห็นจากแปลงสาธิตทดลองปลูกหญ้าแฝกระหว่างแถวมันสำปะหลัง เพื่อเปรียบเทียบการป้องกันการชะล้างหน้าดินในพื้นที่ 1 ไร่ต่อ 1 ปี ซึ่งพบว่า ในพื้นที่ลาดชันไม่มีการปลูกหญ้าแฝก ดินถูกชะล้าง 6-8 ตันต่อไร่ต่อปี ส่วนพื้นที่ลาดชันที่ปลูกหญ้าแฝก ดินถูกชะล้างเพียง 80 กก.ต่อไร่ต่อปี แต่ไม่ได้หญ้าแฝกกลับมาและไม่รู้ว่าจะขอรับได้ที่ไหน
                จนเมื่อปี 2547 ได้รับการแนะนำจากหมอดินอาสาที่มาดูงานเรื่องการชะล้างหน้าดินในพื้นที่ลาดชัน นิมิตร ตัดสินใจสมัครเป็นหมอดินอาสาและเริ่มปลูกแฝกในพื้นที่ของตน โดยขอรับการสนับสนุนกล้าหญ้าแฝกจากสถานีพัฒนาที่ดินอุดรธานี นำมาปลูกเป็นรูปครึ่งวงกลมห่างจากโคนต้นไม้ผล 2.5 เมตร ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดินในสวน สามารถลดการให้น้ำในฤดูแล้งได้ ผลผลิตไม้ผลเพิ่มขึ้นจาก 5-6 ตันต่อปี เป็น 10 ตันต่อปี ปลูกรอบขอบสระน้ำ เมื่อน้ำไหลมาสามารถกรองตะกอนดินให้ติดค้างอยู่กับแถวหญ้าแฝกส่วนน้ำจะค่อยๆ ไหลผ่านลงสู่สระช่วยให้น้ำใสสะอาด และระบบรากของหญ้าแฝกยังช่วยยึดดินรอบๆ ขอบสระไม่ให้เกิดการพังทลาย ปลูกตามแนวขวางความลาดชันของพื้นที่ และในแปลงมันสำปะหลัง แปลงข้าวโพด และปลูกขวางในร่องลึกป้องการชะล้าง นิมิตรยังทดลองปลูกมันสำปะหลังห่างจากแถวหญ้าแฝกประมาณ 30 เซนติเมตร จำนวน 50 ต้น ระหว่างต้นห่างประมาณ 1 เมตร ผลปรากฎว่า ต้นมันสำปะหลังมีขนาดใหญ่ แตกยอดอ่อนบ่อย อายุประมาณ 16 เดือน ขุดหัวมันสำปะหลังต้นหนึ่งมาชั่งได้ประมาณ 20 กก.
                 ด้วยความเพียรจนประสบผลสำเร็จ นิมิตร ทักโลวา เป็นอีก 1 ใน 11 บุคคล ที่ได้รับโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากการประกวดการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการปลูกหญ้าแฝกเพื่อเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำตามแนวทางพระราชดำริ รู้สึกเหมือนได้สนองพระคุณพระองค์ท่าน”
                 ปัจจุบัน นิมิตร ยังคงทดลองใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกในวิธีต่างๆ และเผยแพร่ผลสำเร็จให้แก่ผู้สนใจ ไม่เพียงแต่เกษตรกรเท่านั้น ในพื้นที่โรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม เขาได้ลงมือทำแปลงขยายพันธุ์หญ้าแฝก เนื้อที่ประมาณ 1 งาน เป็นจุดเรียนรู้ให้กับเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง เป็นการปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ในวันข้างหน้าจะได้ปลูกหญ้าแฝกเพื่อเป็นวัคซีนป้องกันผืนดินทำกินต่อไป
                 ต้องการความรู้เพิ่มเติมหรือขอรับการสนับสนุนกล้าหญ้าแฝก สามารถติดต่อได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด สำนักงานพัฒนาที่ดินทั้ง 12 เขต หรือที่ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน โทร.02 579 8515