บทความที่ 1/53
มณฑป กรุดเจริญ เรียบเรียง

              เกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมีกิจกรรมการเกษตรได้มากมายหลายชนิด มีรายได้เพิ่มพูน ผลิตต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปีและสร้างอาชีพที่มั่นคง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเพราะมีอาหารไว้บริโภคเองปลอดภัยจากสารพิษ มีสุขภาพดีและลดอัตราการเสี่ยงต่อความแปรปรวนของราคาผลผลิตจากเศรษฐกิจ สังคม ในอนาคตอันใกล้และไกล
              ข้อความข้างต้นคัดลอกมาจากสมุดปรัชญาความจำเศรษฐกิจพอเพียงของ สุเทพ เพ็งแจ้ง หมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน ม.3 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นข้อความที่คอยเตือนความจำและสร้างแรงจูงใจในการทำเกษตรอินทรีย์ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ จนสามารถคว้ารางวัลหมอดินอาสาดีเด่นชนะเลิศ สาขาการพัฒนาที่ดินตามแนวทางเกษตรพอเพียงในปี 2552 จากกรมพัฒนาที่ดิน
              สุเทพ เริ่มอาชีพเกษตรกรรมด้วยการปลูกข้าวสลับถั่วเขียวในพื้นที่ 50 ไร่ มีรายได้พอสมควรแต่ภายหลังจากการแบ่งพื้นที่ให้กับญาติพี่น้องแล้ว เหลือพื้นที่เพียง 10 ไร่ สุเทพ บอกว่า “หากทำนาเหมือนเมื่อก่อนคงไม่พอที่จะส่งลูกทั้งสองคนเรียนหนังสือได้จนจบปริญญา ได้เห็นในหลวงทางโทรทัศน์ท่านทรงแนะนำเรื่องการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ก็สนใจอยากที่จะเรียนรู้ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการทฤษฎีใหม่กับเกษตรจังหวัดพิจิตร”
              หลักจากอบรมได้รับความรู้หลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ สุเทพ ทำการขุดสระกักเก็บน้ำ และปรับพื้นที่ทำสวนผสมผสาน แต่เนื่องจากดินที่นำมาปรับพื้นที่เป็นดินใต้สระน้ำ ซึ่งมีอินทรียวัตถุต่ำเมื่อปลูกพืชผัก และไม้ผลต่างๆ ได้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร แต่หลังจากได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่บ้านให้เป็นตัวแทนของหมู่บ้าน ในการอบรมเป็นหมอดินอาสากับสถานีพัฒนาที่ดินพิจิตร เพื่อนำความรู้มาถ่ายทอดให้กับเกษตรกรในหมู่บ้าน ทำให้ สุเทพ ได้รับความรู้ในการปรับปรุงดินที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สามารถนำความรู้มาปรับปรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตได้ และช่วยลดต้นทุนจากการซื้อปุ๋ยเคมีและสารเคมีปราบศัตรูพืช
              หลังจากประสบความสำเร็จพื้นที่ของ สุเทพ ก็กลายเป็นจุดเรียนรู้และสถานที่อบรมด้านการพัฒนาที่ดิน เช่น การผลิตปุ๋ยหมักซุปเปอร์พด.1 น้ำหมักซุปเปอร์ พด.2 สารไล่แมลง พด.7 การใช้จุลินทรีย์ป้องกันโรคโคนเน่า ซุปเปอร์ พด.3 การใช้หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ การรณรงค์ไถกลบฟางและตอซัง เป็นต้น
              พื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ 10 ไร่ ของ สุเทพ แบ่งปลูกข้าว 5 ไร่ ทำสวนผสมผสาน 4 ไร่ คอกสัตว์ครึ่งไร่ บ่อน้ำอีกครึ่งไร่ มีพื้นที่อยู่อาศัยและปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคประมาณ 1 งาน ปลูกหญ้าแฝกยาวตลอดแนวคัดดินที่ยกร่อง ขอบบ่อเลี้ยงปลาและตามท้องร่องสวน มีการทำบัญชีครัวเรือน และมีรายได้เสริมจากการขายหมวกที่ถักจากใบหญ้าแฝก การตัดเย็บเสื้อผ้าและการตัดผม กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ สุเทพ มีรายได้มากกว่ารายจ่าย ปีละประมาณ 200,000 บาท
              สุเทพ บอกว่า “การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ทำให้มีรายได้ต่อเนื่อง แต่ต้องลดต้นทุนการผลิตโดยการผลิตปุ๋ยใช้เอง ต้องระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงของสินค้าในอนาคต รู้จักความพอเพียง ที่สำคัญต้องไม่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น ตัวอย่างเช่น เลี้ยงวัว 5 ตัว แล้วเพิ่มเป็น 10 ตัว แต่ดูแลไม่ไหวไปกินผลผลิตของชาวบ้าน เราต้องชดเชยค่าเสียหาย อย่างนี้ทำให้ตัวเราและผู้อื่นต้องเดือดร้อนด้วย”
              หมอดินอาสาสุเทพ เพ็งแจ้ง เกษตรกรที่แสดงให้เห็นแล้วว่าหากเข้าใจการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิตประจำวัน และประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ ก็สามารถพึ่งตนเองได้ แม้มีพื้นที่ประกอบอาชีพไม่มากนัก
              เกษตรกรสนใจศึกษาดูงานในพื้นที่สามารถติดต่อ หมอดินอาสาสุเทพ เพ็งแจ้ง ได้ที่ 92/1 ม.3 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร โทร. 087 522 3729 หรือสนใจกิจกรรมพัฒนาที่ดินสามารถติดต่อดูงานภายในศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงทั้ง 800 แห่งทั่วประเทศ ได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หรือฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน โทร.02 579 8515