บทความที่ 2/53
มณฑป กรุดเจริญ เรียบเรียง
ดินไม่กินปุ๋ย ภาษาที่ชาวบ้านเรียกดินขาดความอุดมสมบูรณ์
ดินแข็งไม่ร่วนซุย สังเกตจากการปลูกพืชไม่เจริญเติบโตแคระแกร็นหรือโตเป็นหย่อมๆ
แม้จะใส่ปุ๋ยเคมีในปริมาณมากเพื่อเร่งการเจริญเติบโตไปแล้วก็ตาม
ปัญหาดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นกับพื้นที่ทำการเกษตรของ เฉลิม รัตนะภานุกูลพันธ์
ที่หมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก
หลังจากนำดินที่ขุดขึ้นมาจากสระน้ำมาปรับพื้นที่ทำเกษตรแบบไร่นาสวนผสม บนพื้นที่
10 ไร่ โดยแบ่งเป็น สระน้ำและร่องสวน 4 ไร่ ปลูกไม้ผล
5 ไร่ ที่อยู่อาศัยและพืชผักสวนครัว 1 ไร่ และยังมีพื้นที่ปลูกข้าวอีก
28 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ถือครอง 4 ไร่ พื้นที่เช่า
24 ไร่ ปัญหาดินไม่กินปุ๋ยทำให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้
เฉลิม ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการปรับปรุงดินและการเพิ่มผลผลิตด้วยการใช้
สารอินทรีย์ชนิดต่างๆ
เมื่อได้เป็นตัวแทนของหมู่บ้านเข้าร่วมเป็นหมอดินอาสา เฉลิม
ได้รับการอบรมกิจกรรมพัฒนาที่ดินหลายอย่าง แต่ที่สนใจและถนัดเป็นพิเศษก็คือการผลิตปุ๋ยหมัก
น้ำหมักชีวภาพ และสารไล่แมลงศัตรูพืช โดยใช้เทคโนโลยีทางชีวภาพสารเร่งซุปเปอร์ พด.
ของกรมพัฒนาที่ดิน หลังจากผลิตแล้วนำมาทดลองใช้ในไร่นาสวนผสมทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นจนเป็นที่สนใจของเกษตรกรในหมู่บ้าน
เฉลิม เล่าว่า ชาวบ้านเห็นว่าผลผลิตดีขึ้นก็สนใจ
แรกๆแนะนำวิธีทำให้ไม่ค่อยมีใครสนใจก็แจกจ่ายให้นำไปทดลองใช้ เมื่อเริ่มเห็นผลดีก็มาขอกันมากขึ้น
จนรับภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตไม่ไหวจึงต้องทำขาย
ขายดีมากสร้างรายได้เสริมให้กับตัวเอง
แต่มาระยะหลังส่วนใหญ่มาขอเรียนรู้กันมากขึ้น
เราเป็นหมอดินอาสาต้องการสอนให้อยู่แล้ว ตอนนี้เริ่มทำเองกันได้แล้ว
หมอดินอาสาเฉลิม ได้นำหลักการผลิตน้ำหมักชีวภาพจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2
ของกรมพัฒนาที่ดิน
มาประยุกต์เพิ่มเติมโดยคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางอาหารสูงหาได้ในท้องถิ่น โดยมีแนวคิดว่าพืชก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ต้องการอาหาร
ที่มีทั้งอาหารหลักและอาหารเสริมเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยเฉพาะพืชในช่วงก่อนและระหว่างการตั้งท้องหรือกำลังติดผลอ่อนก็ต้องการอาหารบำรุงเป็นพิเศษ
จึงจะทำให้ผลผลิตสูง
สูตรน้ำหมักชีวภาพที่ทำขึ้นจะใช้หลักการความรู้ที่ได้จากการอบรมต่างๆจากการเป็นหมอดินอาสามาผสมผสานกัน
เช่น สูตรแรก ใช้รกหมู 30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. สับปะรด 10 กก. น้ำ 10 ลิตร สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 1 ซอง หมัก 60 วัน ใช้อัตราน้ำหมัก 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อข้าวอายุได้ 30
วัน และฉีดพ่นครั้งที่ 2 เมื่อข้าวอายุได้ 45
วัน สำหรับไม้ผลใช้ฉีดพ่นต้นพืชก่อนออกดอกเพื่อช่วยเร่งตาดอก และช่วงติดผลอ่อน
สูตรที่สอง นมโคสด 10 ลิตร หัวไชเท้าสับละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ
5 ลิตร ยาคูล 1 ขวด เครื่องดื่มชูกำลัง
1 ขวด แป้งข้าวหมาก 1 ก้อน สารเร่งซุเปอร์
พด.2 จำนวน 1 ซอง หมักไว้ 45 วัน ใช้เพื่อขยายทรงผลของกระท้อน โดยฉีดพ่นที่ต้นและผลเมื่อผลกระท้อนขนาดเท่าลูกปิงปอง
ใช้อัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
สูตรผลิตน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลงศัตรูพืชที่เหมาะกับการใช้ไล่แมลงศัตรูพืชแต่ละชนิด
และใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านผลิตเครื่องกลั่นช่วยกลั่นให้บริสุทธิ์เพื่อใช้สะดวกและเก็บได้นาน
เช่น สูตรไล่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ใช้ใบยูคาลิปตัส ใบสะเดา บอระเพ็ด ตะไคร้หอม
รวมกัน 30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. น้ำ 50 ลิตร สารเร่งพด.7 จำนวน 1 ซอง หมัก
60 วัน นำไปกลั่นก่อนใช้หรือใช้เลยก็ได้ ฉีดพ่นกันเพลี้ยระบาดใช้อัตรา
50 ซีซี ต่อน้ำ 50 ลิตร สูตรฆ่าแมลงและหนอนม้วนใบข้าว
ใช้หางไหลแดง หนอนตายหยาก กลอย ตะไคร้หอม อย่างละ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. น้ำ 50 ลิตร สารเร่งพด.7 จำนวน
1 ซอง ใช้ในอัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20
ลิตร ฉีดพ่นบนต้นถ้าถูกหนอนโดยตรงทำให้หนอนตาย
จากกระบวนการคิด การสังเกต การลองผิดลองถูกในสิ่งใหม่ๆ
เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รู้ในสิ่งที่ถูกต้องโดยทดลองด้วยตนเอง จนเป็นที่ยอมรับของเกษตรกรในพื้นที่
มีผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้เป็นประจำ จากผลงานความสำเร็จทำให้ เฉลิม รัตนะภานุกูลพันธ์
ได้รับเลือกจากกรมพัฒนาที่ดินเป็นหมอดินอาสาดีเด่นชนะเลิศ สาขาการผลิตและการใช้สารสกัดชีวภาพ
ปี 2552
สนใจเรียนรู้การผลิตและการใช้สารสกัดชีวภาพของ หมอดินอาสาเฉลิม รัตนะภานุกูลพันธ์
ติดต่อได้ที่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง หมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก โทร.081 605 9097 หากต้องการสารเร่งพด. สามารถติดต่อขอรับได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด
หรือสอบถามได้ที่ ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน
โทร.02 579 8515