บทความที่ 26/52
มณฑป กรุดเจริญ เรียบเรียง

               “ไม่ได้คิดประกวดหรือแข่งกับใคร คิดว่าทำอย่างไรให้ครอบครัวอยู่ได้” สุภาวดี ปิยนุสรณ์ บอกถึงจุดหมายหลักของการเปลี่ยนจากทำนามาทำสวนผสมซึ่งไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร นอกจากพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในครอบครัว แต่วันนี้เธอกลับได้รับรางวัลอันทรงเกียรติและกลายเป็นผู้นำในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
               สุภาวดี เริ่มอาชีพเกษตรกรรมด้วยการทำนาปีละครั้งปลูกข้าวพันธุ์เหลือประทิว โดยใช้ปุ๋ยเคมีและมูลสัตว์ ได้ผลผลิตประมาณ 50-60 ถังต่อไร่ หลังจากทำนาก็รับจ้างทั่วไปจนกระทั่งปี 2530 ระบบชลประทานเข้ามาในหมู่บ้านจึงสามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นพออยู่พอกิน แต่ระยะหลังข้าวเริ่มมีโรคและแมลงศัตรูพืชรบกวนมากขึ้น อีกทั้งปุ๋ยเคมีราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำร้ายบางปีพื้นที่นายังถูกน้ำท่วมขัง สุภาวดี เล่าว่า “เมื่อปุ๋ยราคาแพงขึ้นรายจ่ายก็เริ่มเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ และเริ่มแก่ลงทุกวันคงจะทำนาไม่ไหวคิดว่าน่าจะเปลี่ยนมาทำสวนผสม ปลูกพืชหลายๆ ชนิด”
ปี 2538 สุภาวดี ได้เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างระบบผลิตทางการเกษตร ซึ่งได้รับความช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิตและเงินทุนอีกทั้งมีโอกาสได้ไปดูงานเกี่ยวกับการทำสวนผสม จากนั้นจึงมาทำการยกร่องเปลี่ยนจากแปลงนามาทำสวนผสมจำนวน 20 ไร่ เหลือนาข้าวไว้จำนวน 6 ไร่
               สุภาวดี เล่าว่า “เมื่อยกร่องแล้วก็ทำการปลูกมะพร้าวเป็นพืชหลัก แล้วปลูกพืชชนิดอื่นๆแซมก็มีมะขามเทศ ฝรั่ง กล้วย ชมพู่ มะละกอ ซึ่งการปลูกผสมผสานทำให้มีรายได้จากพืชอายุสั้น มะพร้าว 3 ปีถึงจะเริ่มเก็บผลผลิต มะขามเทศ 1 ปีก็เก็บได้แล้ว และยังมีผักสวนครัวอีกสารพัดชนิดเก็บขายได้ทุกวัน ในร่องสวนก็เลี้ยงปลาอีกหลายชนิดไว้กินและขาย”
               สวนผสมแห่งนี้ในช่วงแรกยังคงใช้ปุ๋ยเคมีและไม่ได้มีการปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ ดินขาดความอุดมสมบูรณ์พืชเจริญเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร สุภาวดี ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนซึ่งเป็นหมอดินอาสาให้ไปปรึกษาสถานีพัฒนาที่ดินเพชรบุรี และตัดสินใจสมัครเป็นหมอดินอาสาทำให้รู้จักวิธีการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก การใช้ปุ๋ยพืชสด การผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพต่างๆ สุภาวดี บอกว่า “เมื่อเริ่มลงมือปลูกหญ้าแฝกแรกๆใครผ่านไปผ่านมาเห็นก็ถามว่าทำอะไรอยู่มาปลูกหญ้าทำไมทำนาก็ดีอยู่แล้ว ก็บอกไปว่าหญ้าแฝกป้องกันดินพังทลาย เป็นปุ๋ยให้ต้นมะพร้าว ถูกกว่าซื้อปุ๋ยเคมี”
               เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่ทำก็เริ่มเห็นผลหญ้าแฝกช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ดิน ปุ๋ยพืชสดและปุ๋ยหมักช่วยปรับสภาพโครงสร้างดิน และเพิ่มอินทรียวัตถุให้ดิน เมื่อดินดีขึ้นพืชในสวนผสมแห่งนี้ก็เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และยังปลอดสารพิษอีกด้วย เมื่อประสบความสำเร็จก็เริ่มมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามวิธีการปรับปรุงดิน ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำที่ดีกลับไปเสมอ จากความสำเร็จทำให้ สุภาวดี ปิยนุสรณ์ ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศสาขาไร่นาสวนผสม ประจำปี 2548
               ปี 2550 สุภาวดี ตั้งใจปลูกแฝกในสวนผสมเพิ่มอีก 60,000 ต้น เพื่อเผยแพร่การใช้ประโยชน์ของหญ้าแฝกและทำความดีถวายในหลวงเนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จนได้รับรางวัล จากการประกวด การพัฒนาและรณรงค์ การใช้หญ้าแฝก อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ปี 2551 ประเภทการปลูก:บุคคล ทุกวันนี้สวนผสม 20 ไร่ นาข้าว 6 ไร่ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสุขสบาย และยังได้รับรางวัลสร้างความภูมิใจให้กับครอบครัว กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ที่มีผู้มาดูงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ที่มาเยี่ยมชมจะได้รับการต้อนรับด้วยน้ำมะพร้าว ผลไม้ และอาหารปลอดสารพิษจากสวนแห่งนี้
               สุภาวดี บอกว่า “หากต้องการดูงานติดต่อได้ตลอด เมื่อเราประสบความสำเร็จแล้วมีความรู้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ เรามีหน้าที่แล้วต้องทำ ทำให้ดีที่สุด ทำดีให้ในหลวง” ติดต่อ สุภาวดี ปิยนุสรณ์ ได้ที่ หมู่2 บ.บางเค็ม ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โทร.032 447 753, 081 190 2539