บทความที่ 17/2552
มณฑป กรุดเจริญ เรียบเรียง
นับเป็นเวลา 21 ปีกับอาชีพพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ธนาเดช ชัยยะสมุทร
ตัดสินใจหันหลังให้กับการทำงานประจำที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเหมืองแม่เมาะหันมาประกอบอาชีพเกษตรกร
ที่บ้านทราย หมู่ที่ 4 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง
เพื่อเดินทางตามความต้องการของตนเองที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะทำให้การเกษตรไทยได้พัฒนาขึ้น
โดยพื้นฐานแล้ว ธนาเดช ไม่ได้เรียนจบด้านการเกษตรแต่มีความสนใจในอาชีพนี้
ทำให้มีความตั้งใจในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและทดลองทำในพื้นที่ของตนเอง เริ่มจากการปรับปรุงพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นดินลูกรังโดยวิธีการปล่อยให้หญ้าขึ้นแล้วไม่เผา
ปล่อยทิ้งไว้เมื่อถึงฤดูฝนดินมีความชื้นจึงทำการไถกลบหญ้าลงไปในดินปีละ 2 ครั้งช่วงต้นฝนและปลายฝนทำอย่างนี้อยู่ 4-5 ปี
ดินที่แข็งปลูกพืชอะไรแทบไม่ได้นอกจากหญ้าก็เริ่มดีขึ้น
หลังจากนั้นจึงเริ่มวางแผนปลูกแก้วมังกรโดยทำปุ๋ยหมักจากเศษหญ้าใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี
ซึ่งได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมักจากสถานีพัฒนาที่ดินลำปาง
เมื่อได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการเกษตร ธนาเดช
เกิดความต้องการที่จะถ่ายทอดความรู้ไปสู่เกษตรกรตามที่ตั้งใจไว้
จึงสมัครเข้าเป็นหมอดินอาสาและเข้ารับการฝึกอบรมการผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ
และสารขับไล่แมลง จากกรมพัฒนาที่ดิน จนได้รับคัดเลือกเป็นหมอดินอาสาประจำตำบลของสถานีพัฒนาที่ดินลำปาง
ได้รับการฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆที่นำไปสู่การเป็นวิทยากรผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน
โดยใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดิน ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้
หลังจากนำความรู้ที่ได้ไปใช้พัฒนาการเกษตรของตนเอง ทำให้ผลผลิตแก้วมังกรมีคุณภาพและรสชาติดีเป็นที่ต้องการของตลาด
อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มากเพราะใช้ปุ๋ยหมักที่ผลิตเองเป็นหลัก เทคนิดการปลูกแก้วมังกรของธนาเดชได้รับความสนใจจากเกษตรกรอย่างมากและมีหน่วยงานต่างๆนำไปเผยแพร่มากมาย
แต่หลังจากปลูกแก้วมังกรจำนวน 5,000 กว่าต้น มาได้กว่า 6
ปี ก็ต้องตัดสินใจรื้อบางส่วนทิ้งเพื่อลดจำนวนลง เพราะทำไม่ไหวเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
รวมทั้งขาดแคลนแรงงานในการดูแลรักษาและทำการขนส่ง
ปัจจุบัน ธนาเดช ปลูกต้นตะกูไม้เศรษฐกิจโตเร็วไว้เป็นบำนาญให้แก่ชีวิต
และยังทำการทดลองและวิจัยด้านการเกษตรใหม่ๆในพื้นที่ของตนเอง เพื่อเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติและเผยแพร่ให้เกษตรกรได้นำไปใช้
ตัวอย่างเช่น การปลูกหญ้ารูซี่นอกฤดู เมื่อหญ้ารูซี่เริ่มออกดอกให้ทำการตัดไปเลี้ยงสัตว์
แล้วใส่ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากสารเร่งซุปเปอร์ พด. 1 อัตรา 5
กิโลกรัมร่วมกับปุ๋ยยูเรีย 1 กิโลกรัม
หว่านในแปลงหญ้าให้ทั่วแล้วปล่อยน้ำให้ทั่วแปลง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
เมื่อหญ้าอายุได้ประมาณ 50-60 วัน
ก็ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเข้าแทะเล็มในแปลงหญ้า หลังจากนั้นจึงทำการตัดหรือปล่อยสัตว์เข้าแทะเล็มหมุนเวียน
ทุก 30-45 วัน
การปลูกพริกหวานในพื้นที่ราบ พริกหวานเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีบนดอยสูง
ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ความชื้นสูง
แต่จังหวัดลำปางมีสภาพภูมิอากาศร้อนการปลูกพริกหวานจะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ จึงได้ทำการทดลองเพื่อให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพสูงเทียบเท่ากับพริกหวานที่ผลิตในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นได้
โดยเริ่มในเดือนมีนาคมทำการเพาะเมล็ดในถาดเพาะโดยใช้ขี้เถ้าแกลบเป็นวัสดุเพาะ
จากนั้นนำไปเก็บไว้ในโรงเพาะชำรดน้ำให้ชุ่มทุกวัน ประมาณ 1 เดือน
หรือเมื่อใบเริ่มงอกประมาณ 4-6 ใบ
จึงย้ายลงปลูกในแปลงปลูกที่คลุมด้วยสแลนเพื่อป้องกันความร้อนแก่ต้นพริก การเตรียมแปลงจะต้องมีการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักที่ผลิตจากสารเร่งซุปเปอร์
พด. 1 อัตรา 500 กิโลกรัมต่อไร่
และรองก้นหลุมด้วยจุลินทรีย์ป้องกันโรครากเน่าและโคนเน่าที่ผลิตจากสารเร่ง พด. 3 ในอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่
ดินที่ใช้ปลูกจะต้องเป็นดินร่วนมีการระบายน้ำดีและเร่งการเจริญเติบโตด้วยปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสารเร่งซุปเปอร์พด.2
และป้องกันแมลงศัตรูพืชโดยใช้สารขับไล่แมลงที่ผลิตจากสารเร่ง พด. 7
การผลิตน้อยหน่านอกฤดู วิธีการผลิตน้อยหน่านอกฤดูสามารถเริ่มทำได้ในช่วงหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว
ทำการตัดแต่งกิ่งน้อยหน่าในเดือนพฤศจิกายน ทำการเด็ดใบทิ้งให้หมดหยุดการให้น้ำจนกระทั่งเกิดการแตกยอดใหม่
หลังจากแตกยอดใหม่ได้ประมาณ 6-8 ใบ
จะเกิดตาดอกจึงเริ่มให้น้ำโดยการให้น้ำสัปดาห์ละครั้งจนกระทั่งดอกเจริญเติบโตเมื่อดอกใกล้บานก็เริ่มให้น้ำมากขึ้น
หลังจากติดผลใส่ปุ๋ยหมักบริเวณรอบโคนต้นใช้เศษหญ้าคลุมโคนต้นเพื่อเป็นการรักษาความชื้นในดิน
และเร่งการเจริญเติบโตด้วยปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากผลไม้สุก
หอยเชอรี่และสารเร่งซุปเปอร์ พด. 2 ใช้ฉีดพ่นทางใบ
และป้องกันแมลงศัตรูพืชโดยใช้สารขับไล่แมลงที่ผลิตจากสารเร่ง พด. 7 สัปดาห์ละครั้งร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจในการประกอบอาชีพ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้อื่นจึงทำให้
ธนาเดช ชัยยะสมุทร ได้รับรางวัลชมเชยใน โครงการ ๘๐ พรรษา
พระภูมินทร์ ๘๐ หมอดินนำทิศ สู่ชีวิตพอเพียง ของกรมพัฒนาที่ดิน
นอกจากนี้ได้รับการสนับสนุนให้พื้นที่ทำการเกษตรเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้เกษตรกรและผู้สนใจสามารถเรียนรู้ศึกษาและดูงานด้านการพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่ถูกต้อง
ธนาเดช บอกว่า หลายคนสงสัยว่าทำไปเพื่ออะไร
มีเงินเท่าไหร่ลงทุนทดลองจนหมด
ผมคิดแต่ว่าทำอย่างไรจะช่วยพัฒนาการเกษตรไทยให้ดีขึ้นโดยเริ่มต้นจากที่ลำปางก่อน ช่วยลดต้นทุนการผลิต
ผู้ผลิต ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมปลอดภัย หากเราได้สร้างความดีให้กับประเทศชาติบ้าง
ก็ไม่เสียชาติเกิด
ต้องการศึกษาดูงาน หรือแลกเปลี่ยนความรู้กับ หมอดินธนาเดช ชัยยะสมุทร โทร.054
320 312, 089 8381301 หรือต้องการข้อมูลของสารเร่งพด. เพิ่มเติมติดต่อได้ที่
ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน โทร.02
579 8515