มณฑป กรุดเจริญ
เรียบเรียง
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชำปลาไหล ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นจุดเรียนรู้ศึกษาดูงาน
และเปิดอบรมให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่สนใจศึกษาในเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจสำคัญ
ภายใต้แนวคิดของ คำนึง ชนะสิทธิ์ ประธานศูนย์ฯ ที่บอกว่า เกษตรอินทรีย์ทำได้จริง
ดีจริงหรือไม่ต้องลองทำด้วยความตั้งใจ หลังผ่านการอบรมเกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที
คำนึง ชนะสิทธิ์ ที่ปรึกษาหมอดินอาสาประจำจังหวัดจันทบุรี เกษตรกรวัย 62
ปี
ที่มีอดีตไม่ต่างจากเกษตรกรรายอื่นๆในจังหวัดจันทบุรีที่นิยมปลูกพืชชนิดเดียว ตามความต้องการของตลาด
ต้องแข่งขันกันปลูกเร่งให้ได้ผลผลิตสูงโดยการใช้สารเคมีเหมือนกัน ทำให้เกิดโรคพืชมากขึ้น
และเมื่อผลผลิตมีมากเกินความต้องการ ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำก็ตามมา ผลที่ได้รับคือขาดทุน
จนกระทั่งในปี 2538 ได้ปรึกษากับสถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี
ให้นำดินไปตรวจวิเคราะห์จึงรู้ว่าจากการใช้สารเคมีติดต่อกันเป็นระยะเวลานานทำให้ดินเป็นกรดจัด
ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง 4.5 ซึ่งในทางวิชาการหากค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ำกว่า
5.5 คือระดับความเป็นกรดที่มีปัญหาต่อการเพาะปลูกพืช
และก่อให้เกิดการระบาดของเชื้อโรคพืช โดยเฉพาะเชื้อรา เช่น โรครากเน่า โคนเน่า
เป็นต้น
จากนั้น ลุงคำนึง
จึงเข้ารับการอบรมจากสถานีพัฒนาที่ดินในเรื่องการปรับโครงสร้างดินที่เป็นกรด โดนใช้วัสดุปูนทางการเกษตร
ได้แก่ ปูนโดโลไมต์ โดยใช้ในอัตราทั่วๆ ไป ประมาณ 100-300 กก./ไร่
และเริ่มใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปรับปรุงบำรุงดินแทนปุ๋ยเคมี
ปลูกพืชคลุมดินเป็นพืชสมุนไพรผสมผสานกันหลายชนิดในสวนไม้ผลผสมผสานที่มีทั้ง ทุเรียน
ลองกอง เงาะ มังคุด นำดินไปตรวจค่าพีเอชเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จาก 4.5 ขึ้นไปจนถึง 6.8 ผลผลิตไม้ผลดีขึ้น
ไม่เกิดโรครากเน่า โคนเน่า
สำหรับสมุนไพรในสวนแห่งนี้ ลุงคำนึง
คิดปลูกเพื่อเป็นการอนุรักษ์แต่กลายเป็นรายได้ให้ทุกสัปดาห์สามารถขายได้ตลอดทั้งปี
ส่วนไม้ผลที่ปลูกเป็นหลักปีหนึ่งขายได้เพียงครั้งเดียวและสังเกตุได้ว่าจากการปลูกพืชผสมผสานทำให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดี
เนื่องจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามธรรมชาติเกิดเป็นสังคมพืช
สมุนไพรหลากหลายชนิดใต้โคนต้นผลไม้ มีทั้งกระวาน หน่อแดง ว่านสาวหลง ขมิ้นชัน
ขมิ้นอ้อย เตยหอม ตะไคร้หอม ชะพลู และอีกหลายสิบชนิดช่วยคลุมดินให้ชุ่มชื้น ปรับโครงสร้างดิน
ควบคุมค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ทำให้สิ่งมีชีวิตในดินและแมลงที่เป็นประโยชน์กลับคืนมา
ป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
และกลิ่นของสมุนไพรสามารถขับไล่แมลงศัตรูพืชได้อีกด้วย เป็นปุ๋ยชั้นดีที่ คำนึง
ชนะสิทธิ์ บอกว่า ที่นี่ไม่มีปุ๋ยสูตร 15-15-15 เหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นปุ๋ยอินทรีย์สูตรสมบูรณ์จากสังคมพืช
ช่วยให้ต้นไม้แข็งแรง ไม่เกิดโรค ไม่มีแมลงรบกวน ได้ผลผลิตที่ยาวนาน
สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้ในสวนแห่งนี้
จะใช้ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากสารเร่งพด.1 โดยใส่ต้นละ 40 กก./ปี ในช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต 10-15 วัน
และปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสารเร่งพด.2 ผสมกับน้ำในอัตรา 1:500
ให้ไปทางระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ในสวนสมุนไพรทุกๆ 7 วัน
เกษตรกรสนใจเข้าอบรมที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชำปลาไหล ติดต่อ นายคำนึง
ชนะสิทธิ์ โทร.08-9092-9596 โดยการอบรมจะสอนหลักแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
และเน้นการปฏิบัติจริง เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ การผลิตปุ๋ยหมัก น้ำส้มควันไม้
สารสมุนไพรขับไล่แมลง การปลูกพืชผสมผสาน เป็นต้น สำหรับสารเร่งพด. ของกรมพัฒนาที่ดินสามารถติดต่อได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด
ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน โทร.02-579-8515