บทความที่ 28 / 2551
ประกิต เพ็งวิชัย รายงาน
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูพยัคฆ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
บ้านน้ำรีพัฒนา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ก่อกำเนิดขึ้นมาสืบเนื่องจากเมื่อวันที่
๑๒ มกราคม ๒๕๔๖ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ป่าไม้ภูพยัคฆ์
ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และทรงพบว่าป่าไม้ถูกแผ้วถาง
ทำให้ป่าเสื่อมโทรม และมีแนวโน้มว่าจะมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากราษฎรมีความต้องการจับจองพื้นที่ทำกิน
และเปลี่ยนที่ทำกินในลักษณะการทำไร่หมุนเวียน เมื่อที่ดินผืนเดิมเสื่อมคุณภาพ
ก็ทำการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ดินใหม่เนื่องจากราษฎรยังขาดการเรียนรู้การใช้ที่ดินให้ถูกหลักวิชาการเกษตร
จึงจำเป็นจะต้องมีการจัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงโดยนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางแล้วมาจัดทำการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อปลูกพืชเมืองหนาวที่สำคัญให้เหมาะสม
และจัดตั้งเป็นธนาคารอาหารให้ราษฎรบ้านน้ำรีพัฒนา หมู่ที่ ๑๒ ตำบลขุนน่าน
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และหมู่บ้านใกล้เคียงเข้าร่วมโครงการต่อไป
ในการนี้ทรงรับพื้นที่ไว้พัฒนา
และได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง
ภูพยัคฆ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้น
โดยนำพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางแล้วมาจัดทำเป็นแปลงสาธิตการปลูกพืชเมืองหนาว
และให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเกษตรที่ถูกต้องตามหลักวิชา ทั้งนี้เพื่อหยุดยั้งมิให้ราษฎรบุกรุกแผ้วถางป่าเพิ่มขึ้น
มีพื้นที่รวม ๑๐,๐๐๐ ไร่ เป็นพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ ๙,๕๐๐ ไร่ และเพื่อพัฒนาการเกษตร ๕๐๐ ไร่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์ ๔ ประการ
๑.เพื่อสนองพระราชดำริ
ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตรที่ถูกต้องตามหลักวิชาการให้แก่ราษฎรชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง
๒.เพื่อตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง
พัฒนาให้ราษฎรชาวไทยภูเขาได้มีอาชีพการเกษตรตามหลักวิทยาการแผนใหม่
ทดแทนการทำไร่เลื่อนลอยอยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียงให้ คนอยู่กับป่า
อย่างยั่งยืน
๓.เพื่อให้ราษฎรชาวไทยภูเขามีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพัฒนา
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีคุณภาพและมีป่าไม้ที่สมบูรณ์ตลอดไป
๔.เพื่อเป็นสถานีตัวอย่างในการขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นในลักษณะเดียวกัน
ชีวิตติดดิน..ความเปลี่ยนแปลงของนักต่อสู้ สู่วิถีชีวิตการทำเกษตร
ผืนดินถูกพลิกฟื้น
รอการงอกเงยของพืชพรรณเมืองหนาว จากสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง
ภูพยัคฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้พื้นที่จะมีข้อจำกัดทางด้านความลาดชัน
มีการชะล้างพังทลายและดินเสื่อมโทรมแค่ไหนก็ตาม
ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเรากรมพัฒนาที่ดิน ในการที่จะสนองงานตามแนวพระราชดำริ
ทั้งนี้เพื่อราษฎรและพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่โครงการมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีสถานีพัฒนาที่ดินน่าน
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต ๗ เป็นผู้ประสานงานกับทางราชการ ชาวบ้านยังได้พูดอย่างมีความหวังด้วยว่าการพัฒนาที่ดินจะนำความรุ่งเรืองมาให้
ภูพยัคฆ์ได้รับการพัฒนามาเรื่อย
ๆ ในส่วนของงานพัฒนาที่ดินได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องได้มีการปลูกหญ้าแฝก ขุดขั้นบันไดดิน
นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงบำรุงดิน โดยใช้พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วมะแฮะ
ถั่วพุ่มดำ
นางสาวเบญจพร
ชาครานนท์ หัวหน้าสถานีพัฒนาที่ดินน่าน กล่าวว่า
การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ของสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์นั้น
พื้นที่แห่งนี้ประสบปัญหาผลผลิตไม่เพียงพอ สภาพดินเสื่อมโทรมและขาดแคลนน้ำ มีการบุกรุกแผ้วถางป่าทำไร่หมุนเวียน
รวมทั้งมีปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีจำนวนมากในกระเพาะปลูก และเพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งมีฐานะยากจน
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูพยัคฆ์ขึ้น ในส่วนของสถานีพัฒนาที่ดินน่าน
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต ๗ กรมพัฒนาที่ดิน
โดยได้เข้าไปสำรวจและจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดินทำแผนที่ภูมิประเทศและแผนที่ถือครอง
ทำการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูงเพื่อให้เหมาะสมกับความลาดชันของพื้นที่ เช่น ขุดคูรับน้ำรอบเขา
ขุดขั้นบันไดดิน ปลูกพืชคลุมดินตามแนวขั้นบันไดดิน และปลูกตามแนวระดับ ได้ทำการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้
จัดทำระบบป่าเปียก พัฒนาที่ดิน สำรวจทำแผนที่ วางแผนการใช้ที่ดินให้เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของดิน
ก่อสร้างบ่อเก็บน้ำสำหรับรองรับน้ำไว้กักเก็บเพื่อกระจายน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร
นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมให้ราษฎรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
และปุ๋ยอินทรีย์น้ำสูตรสารสกัดป้องกันโรคแมลงเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวนาดำพืชผักและไม้ผล
การดำเนินงานของโครงการพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ
มุ่งเน้นให้ราษฎรเกิดการเรียนรู้ การประกอบอาชีพการเกษตรที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้
รวมทั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อปลุกจิตสำนึกให้หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ
เนื่องจากพื้นที่ภูพยัคฆ์
เป็น ที่สูง อากาศจึงค่อนข้างหนาวเย็น
เหมาะสมที่จะปลูกพืชเมืองหนาว ที่มีค่าสูงทางเศรษฐกิจ จึงได้มีการศึกษาวิจัย
และทดลองการปลูกพืชเมืองหนาวขึ้น โดยคัดเลือกพันธุ์พืชที่เหมาะสม ที่จะนำมาปลูกใน ที่สูง จนสามารถพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรชาวไทยภูเขาปลูกผักปลอดสารพิษบนดอยที่สูงแห่งนี้
โดยไม่ต้องใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแม้แต่น้อย พร้อมก่อสร้างบ่อเก็บน้ำ
และระบบส่งน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำให้แก่ราษฎรในการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในพื้นที่ จัดทำระบบกระจายน้ำเข้าสู่แปลงเพาะปลูก
ซึ่งใช้น้ำในระบบท่อและสายยาง มีน้ำต้นทุนมาจากน้ำซับบนภูเขาสูงที่สามารถใช้ได้อย่างเพียงพอตลอดปี
พืชผักที่ปลูกมีหลากหลาย เช่น ผักกาดเขียว กวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักกาดหอม
ผักกาดหัว คะน้ายอด คะน้าใบ คะน้าฮ่องกง กะหล่ำม่วง กะหล่ำดอก กะหล่ำปลีหัวใจ
บวบหอม ถั่วลันเตา ปวยเล้ง บล็อกโครี่ ดอกไม้จีน น้ำเต้า ฟักทอง ฯลฯ
นอกจากนี้ยังได้ทำการทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวนาดำในแปลงนาของราษฎรอีกด้วย
วิธีการเพาะปลูกพืชผักก็เริ่มโดย
เพาะเมล็ดผักในกระบะเพาะก่อน เมื่อมีใบจริงแล้วก็ย้ายลงถุง
นำไปอนุบาลในเรือนเพาะชำประมาณ 15 วันก็นำไปปลูกในแปลงที่เตรียมดินไว้ดีแล้ว
ปฏิบัติดูแลรักษาจนเก็บเกี่ยวส่งตลาด ซึ่งตลาดมีตลาดประจำอยู่ที่โรงพยาบาลน่าน ตลาดอำเภอเมืองน่าน
และสถานที่ราชการต่าง ๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโรคแมลงระบาด
ถ้ามีการระบาดสถานีจะเปลี่ยนประเภทของผักที่จะปลูกในรุ่นต่อๆไปทันที การเลือกชนิดผักที่จะปลูกในแต่ละฤดูก็จะเลือกให้เหมาะสมกับฤดูกาลนั้น
ๆ ตลอดจนคำนึงถึงความต้องการของตลาดด้วย โดยจะไม่ให้ซ้ำกับพืชผักที่ปลูกตามพื้นที่ราบลุ่มทั่วไป
นอกจากนั้น
สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริ ภูพยัคฆ์
ยังได้ศึกษาสภาพพื้นที่ และความเหมาะสมในการปลูกไม้ผลยืนต้นเมืองหนาว
เช่น ท้อ พลับ ศุภโชค กาแฟอาราบิก้า หม่อนรับประทานผลสด ฯลฯ
คุณสุรชัย
กันตา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑๒ ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน อายุ ๔๑ ปี
กล่าวว่าก่อนเริ่มโครงการฯ ทำไร่เลื่อนลอย ปลูกข้าวนาปี ตามดั้งเดิมไปเรื่อย ๆ
ปลูกกินเอง รายได้ไม่แน่นอน ผมเคยเข้าเฝ้าพระราชินีและได้น้อมนำพระราชดำริ
มาปฏิบัติเพื่อใช้ในการดำรงชีพ พอโครงการเข้ามากลัวมีปัญหาเรื่องที่ดิน กลัวไม่มีข้าวกิน...อยากได้ชีวิตใหม่ จึงเลิกทำไร่เลื่อนลอย
พอโครงการเข้ามา ความเป็นอยู่ดีขึ้น ทุกวันนี้..ชาวบ้าน กลับมาทำเอง
โดยดูตัวอย่างการเรียนรู้จากการรับจ้างในแปลงเกษตรที่นี่
ได้ความรู้ประกอบอาชีพการเกษตรที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้
คนนี้รับจ้างไปเรียกว่ามารับจ้างได้เงิน
และได้ความรู้ด้วยแนะนำให้ชาวบ้านเลิกเผาป่าถ้ามีเงินมาจ้าง
ก็อยากมาทำจะได้เลิกถางป่า สร้างงานในพื้นที่โครงการ เข้ามาทำ ชาวบ้านมีความหวัง..
สำหรับไม้ผลที่ปลูกไว้จะทำหน้าที่เสมือนไม้ในป่า
ในลักษณะไม้ยืนต้นที่มีระบบรากลึก ที่สร้างความชุ่มชื้นให้ผืนดิน
และก่อกำเนิดต้นน้ำลำธารก็ตาม แต่ในระบบธรรมชาติอันยาวนาน
และยั่งยืนนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการฟื้นฟูสภาพป่าโดยตรงทั้งพื้นที่ป่า ให้พันธุ์ไม้เจริญเติบโตเองโดยธรรมชาติ
ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานทีเดียว การทำนาแบบขั้นบันได และจัดทำระบบกระจายน้ำเข้าสู่แปลงเพาะปลูก
พัฒนาและส่งเสริมการปลูกข้าว
ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สูงไม่มีพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ราษฎรจึงอาศัยปลูกข้าวไร่แบบขั้นบันไดแทน
โดยวิธีการการทำนาแบบหยอด มีการปรับปรุงบำรุงดิน และปลูกหญ้าแฝกป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน
ได้ผลผลิต ๖๐ ถังต่อไร่ คุณสุรชัย กล่าว.
สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง
ภูพยัคฆ์ มีจุดเด่นในหลาย
ๆ ด้าน เช่น
๑. เป็นตัวอย่างการบูรณาการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรบนที่สูง
๒. มีระบบน้ำที่อุดมสมบูรณ์
สามารถใช้น้ำในระบบท่อและสายยาง ได้ตลอดทั้งปี
๓. สภาพอากาศเย็น
เหมาะสมต่อการปลูกพืชผักเมืองหนาวที่ตลาดมีความต้องการสูง
และแตกต่างจากพืชผักทั่วไป จึงไม่มีปัญหาด้านการตลาด
๔. มีงบประมาณสนับสนุนผลผลิตเพียงพอ
๕. มีการปรับปรุงบำรุงดิน
ตลอดเวลาทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นทุนเดิมในการผลิตพืชผัก
๖. มีการปลูกพืชหลากหลายชนิด
ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ลดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช อีกทั้งเมื่อมีการระบาด
ก็จะปรับเปลี่ยนชนิดพืชทันที
๗. มีตลาดรองรับที่ชัดเจน
เนื่องจากเป็นพืชผักปลอดสารพิษ ผู้บริโภคมีความต้องการสูงอยู่แล้ว
เมื่อมีจุดเด่นก็มีจุดด้อยเหมือนกัน
อาทิ เช่น
๑. ที่ตั้งของสถานีอยู่ไกล
ขนส่งลำบาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงจึงต้องพึ่งพาภาคราชการสนับสนุนในการขนส่งผลผลิตสู่ตลาด
๒. การประชาสัมพันธ์ให้บุคคลภายนอกทราบถึงความสวยงามของสถานียังมีน้อย
๓. มีข้อเสนอแนะต่อสถานี
ว่าควรมีกิจกรรมการเกษตรที่หลากหลาย เพื่อเกื้อหนุนกิจกรรมซึ่งกันและกัน เมื่อเสร็จสิ้น
ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พร้อมกับมีองค์ความรู้ที่ได้รับ
พร้อมที่จะนำไป ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ต่อการส่งเสริมอาชีพ ของพี่น้องเกษตรกร
และกับสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกันของเมืองน่าน ต่อไป
วัตถุประสงค์
ให้เกิดประโยชน์ได้ ๔ ประการ
๑. เพื่อสนองพระราชดำริ
ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
๒. เพื่อตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง
พัฒนาให้ราษฎรชาวไทยภูเขาได้มีอาชีพการเกษตรตามหลักวิทยาการแผนใหม่ ทดแทนการทำไร่เลื่อนลอยอยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียงให้
คนอยู่กับป่า อย่างยั่งยืน
๓. เพื่อให้ราษฎรชาวไทยภูเขามีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพัฒนา
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีคุณภาพและมีป่าไม้ที่สมบูรณ์ตลอดไป
๔. เพื่อเป็นสถานีตัวอย่างในการขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นในลักษณะเดียวกันวันนี้
ภูพยัคฆ์
มีสีสันของสภาพพื้นที่ ที่ได้รับการพัฒนา ด้วยการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม
บางส่วนที่เคยโล่งเตียน อันเป็นผลมาจากถูกทำลายในอดีต ก็ได้กลับกลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรม
ในส่วนพื้นที่ที่เคยเป็นป่าก็ได้รับการฟื้นฟู ทั้งด้วยการปลูกป่าด้วยไม้โตเร็ว
และปล่อยทิ้งพื้นที่ที่เคยเป็นป่า ให้เกิดเป็นป่าใหม่โดยวิธีธรรมชาติ
ภาพของการทำไร่เลื่อนลอยในอดีตที่เคยสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต
และทรัพยากรธรรมชาติ ของประเทศ และชาวบ้านบนพื้นดินแห่งนี้ จึงไม่ได้ทิ้งร่องรอยให้ใครได้เห็นอีกแล้ว
เพราะในวันนี้ขุนเขาแห่งภูพยัคฆ์ได้กลับฟื้นกลายเป็นผืนแผ่นดินแห่งพืชพันธุ์อันอุดม
ชาวบ้านมีบ้านเรือนอาศัยเป็นหลักแหล่ง มีที่ทำกินที่ถาวร
มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง
โดยเฉพาะดินแดนขุนเขาภูพยัคฆ์
ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว
มีผู้คนสนใจเดินทางมาเยี่ยมเยือนข้ามทะเลภูเขาลูกแล้วลูกเล่าจนเกือบถึงชายแดนประเทศลาว
ถ้าใครได้ไปพักค้างคืนจะดื่มด่ำกับบรรยากาศบนภูเขาสูง
ทุกเช้าสัมผัสไอหมอกที่ล่องลอยอ้อยอิ่งปกคลุมหุบเขาและเย็นชื่นใจของฤดูหนาวบนภูพยัคฆ์
ซึ่งเป็นตำนานของนักสู้เพื่อประชาธิปไตยในอดีต
เมื่อเดินทางไปถึงแล้วก็ไม่ผิดหวังพวกเราได้พบกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าลั๊ว
ที่แอบอิงอยู่กับธรรมชาติที่แสนไกลถึงสถานีฯ ภูพยัคฆ์
ที่ใช้ประโยชน์ที่ดินให้คนเหล่านั้นทำการเกษตรเลี้ยงตัวเองได้
หรือใครชอบสินค้าท้องถิ่นแวะจับจ่ายได้ที่ตลาดชายแดนห้วยโก๋น
อยู่บริเวณด่านผ่านแดนบ้านห้วยโก๋น ด่านตรงข้ามคือเมืองน้ำเงิน แขวงไชยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
(สปป.ลาว) อยู่ห่างจากเมืองน่าน ๑๓๘ กิโลเมตร ตลาดจะมีทุกเสาร์
เริ่มตั้งแต่เช้าถึงประมาณใกล้เที่ยง สินค้าที่ จำหน่าย ได้แก่ ผ้าทอลายน้ำไหล
ฝีมือชาวไทยลื้อ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ของป่า ลูกต๋าว เป็นต้น อนุญาตให้ประชาชนไทย-ลาว
เข้าออกด่านนี้ทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.
และระหว่างเดินทางเส้นทางผ่านก่อนถึงสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง
ภูพยัคฆ์ เชิญเข้าชมตำนานพราวไพรอนุสรณ์สถานภูพยัคฆ์
ซึ่งได้เปิดมาตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๘ อันเป็นสถานที่ยืนยันทางประวัติศาสตร์ของผู้ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและสิทธิประชาธิปไตยแห่งปวงชน
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินน่าน
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต ๗ ตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โทร. ๐๕๔-๗๕๒๔๖๙,๐๕๔-๗๕๒๒๑๕