|
สารคดีที่ 10/2550 |
บ้านโคกอิฐ-โคกใน เป็นหมู่บ้านเก่าแก่แห่งหนึ่งของ จังหวัดนราธิวาส
ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จำนวนประชากร
ในหมู่บ้านมีจำนวน 78 คน 22 ครัวเรือน
มีพื้นที่ทั้งหมด 6,915 ไร่ เป็นพื้นที่ทำการเกษตร จำนวน 1,072
ไร่ พื้นที่เดิมส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่นาร้าง สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม
และดินแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด และขาดความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรทำนาไม่ได้ผล
และไม่สามารถใช้พื้นที่ทำการเกษตรได้ ทำให้เกษตรกรต้องปล่อยพื้นที่ทิ้งร้าง เป็นจำนวนมาก |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริ
ให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ เข้าไปดำเนินการพัฒนาพื้นที่ บ้านโคกอิฐ-โคกใน
ในปี พ.ศ. 2533 โดยนำผลสำเร็จจากการศึกษา ทดลอง วิจัย
จากโครงการแกล้งดิน ไปถ่ายทอดสู่พื้นที่เกษตรกร โดยการจัดทำ
โครงการทดสอบการถ่ายทอดเทคโนโลยีบ้านโคกอิฐ-โคกใน ในพื้นที่ 500 ไร่ ทำการปรับปรุงบำรุงดิน และปั้นคันนา จากนั้นร่วมกับ
เกษตรกรทำแปลงเพาะกล้า ปลูกข้าวเป็นครั้งแรก และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ข้าวให้ผลผลิตเฉลี่ย 32 ถัง/ไร่ ซึ่งจากเดิมได้ผลผลิต
น้อยมากแค่ 5-10ถัง/ไร่ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริ
ในคราวเสด็จฯทอดพระเนตรสถานีสูบน้ำบ้านโคกกูแว บริเวณบ้านโคกอิฐ-โคกใน เมื่อวันที่
9 ตุลาคม 2535 ความว่า |
...เราเคยมาโคกอิฐ-โคกใน มาดูเขาชี้ตรงนั้นๆ เขาทำ แต่ว่าเขาได้เพียง 5ถัง 10 ถัง แต่ตอนนี้ได้ขึ้นไปถึง 40-50 ถัง ก็ใช้ได้แล้ว ต่อไปดินก็ไม่เปรี้ยวแล้ว
เพราะว่าทำให้เปรี้ยวเต็มที่แล้วโดยที่ขุดอะไรๆ ทำให้เปรี้ยวแล้วก็ระบาย
รู้สึกว่านับวัน เขาจะดีขึ้น... อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมากที่ใช้งานได้ แล้วชาวบ้านเขาก็ดีขึ้น
แต่ก่อนชาวบ้านเขาต้องซื้อข้าว เดี๋ยวนี้เขามีข้าวอาจจะขายได้ |
และเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ บริเวณบ้านโคกอิฐ-โคกใน ซึ่งทำให้บรรดาราษฎร
และข้าราชการทุกคนในพื้นที่นั้น รู้สึก ซาบซึ้งและ ประทับใจมิรู้ลืม ในพระราชดำรัส
ตอนหนึ่งความว่า ... แต่ก่อนนี้เรามายืนตรงนี้
เห็นพื้นที่ที่เขาทำน้อยกว่านี้แต่ว่าเป็นจุดที่เขียวที่สุด ใช้ได้
นี่ที่มาที่นี่ดีใจมาก ที่ทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคน ร่วมกันทำและชาวบ้านร่วมกัน ช่วยกันทำ
เห็นผลจึงต้องมาดูที่นี่ จะอธิบายได้... |
นายบัณฑิต ตันศิริ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน
กล่าวว่าปัจจุบันศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ได้ดำเนินการ พัฒนาปรับปรุงพื้นที่ดิน เปรี้ยวเพื่อทำการเกษตรพื้นที่บ้านโคกอิฐ-โคกใน
จำนวน 1,018 ไร่ โดยแบ่งเป็น 3 กิจกรรม
คือ 1. พื้นที่ทำนา จำนวน 758 ไร่ โดยทำการปรับปรุงดิน
เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวด้วยการ หว่านพืชปุ๋ยสดหลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าว
และทำการไถกลบลงในดินในขณะที่พืชปุ๋ยสดกำลังออกดอกบานเต็มที่ จากนั้นปลูกข้าวพันธุ์เฉี้ยงพัทลุง
พันธุ์ลูกแดงและพันธุ์หอม กระดังงา ได้ผลผลิตเฉลี่ย 45-55 ถัง/ไร่
2. พื้นที่ขุดยกร่องเพื่อปลูกพืชผักและทำการเกษตรแบบผสมผสานจำนวน
200 ไร่ และ 3. พื้นที่ขุดยกร่อง
ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันอีก 60 ไร่ |
เกษตรกรบ้านโคกอิฐ-โคกใน ต่างรู้สึก ปลาบปลื้มปิติ และมีความภาคภูมิใจ
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคน ที่พื้นที่ของตนสามารถทำการเกษตร
ในพื้นที่ดินเปรี้ยว จนประสบผลสำเร็จ มีข้าวพอกินและเหลือขายด้วย โดยจัดตั้งกลุ่มผลิตข้าวซ้อมมือ
ส่งจำหน่ายทั่วไป ทำให้มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้ชุมชนเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
นับได้ว่า การขยายผลการพัฒนาในพื้นที่ บ้านโคกอิฐ โคกใน
สามารถพัฒนาจนประสบผลสำเร็จ สนองพระราชดำริ
สมพระราชหฤทัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และที่สำคัญ
เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างต่อเนื่อง อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ |