|
สารคดีที่ 9/2550 |
นายวินัย
ฤทธิกุล |
กระแสความนิยมของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมีเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มการตลาดแจ่มใสขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ
ขมิ้นชัน ถือเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
จนได้เป็นหนึ่งในสิบสองชนิดของสมุนไพรเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร
(ปี 2548-2552) เนื่องจากมีการใช้ประโยชน์หลายด้าน
ตั้งแต่ใช้บริโภคภายในครัวเรือน ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น
ทำสีผสมอาหารเป็นวัตถุดิบผลิต ผงกะหรี่และมัสตาร์ด ใช้เป็นส่วนผสมของยาแผนโบราณ
มีสรรพคุณแก้โรคกระเพาะ ท้องอืด ท้องเฟ้อ รวมทั้งใช้เป็นวัตถุดิบในการ ผลิตเครื่องสำอาง
โดยมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ สารเคอร์คูมิน |
ขมิ้นชัน ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องมีคุณภาพดี
มีปริมาณสารเคอร์คูมิน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ปราศจากสารพิษตกค้าง
ดังนั้นการปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ จึงมีความสำคัญกับการผลิตขมิ้นชัน
เป็นอย่างมากเพราะมีผลต่อ ปริมาณสารเคอร์คูมินในขมิ้น โดยจะส่งผลให้ผู้บริโภคที่รักษาสุขภาพด้วยขมิ้นชันมีความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น |
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนขมิ้นชันปลอดสารพิษ อำเภอบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตขมิ้นชันอินทรีย์สู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มมูลค่าโดยการแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นสบู่สมุนไพร
น้ำมันขมิ้นชันสำหรับไล่ยุง ซึ่งนายวินัย ฤทธิกุล
ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขมิ้นชันปลอดสารพิษ เล่าให้ฟังว่า ประชาชนในพื้นที่มีอาชีพทำสวนยางพารา
พื้นที่ว่างหลังบ้านจะปลูกผักไว้บริโภค จึงไม่มีการใช้สารเคมีเลยทำให้
มีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง ซึ่งพื้นที่ในสวนส่วนหนึ่งจะปลูกขมิ้นชันไว้ทุกบ้าน เพราะเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ชาวใต้นิยมบริโภค
โดยใช้เป็นส่วนประกอบ ของอาหารประจำวันทั้ง แกงเหลือง แกงจืด
ต่อมาเมื่อมีประชากรเพิ่มขึ้นทำให้พื้นที่การเกษตรเริ่มลดลง การปลูกพืชผักไว้
บริโภค ก็น้อยลงด้วย
เกษตรกรในพื้นที่จึงเลือกที่จะรวมกลุ่มปลูกขมิ้นชันปลอดสารพิษไว้บริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม
โดยปลูกเป็นพืชแซมในสวนยางพาราหรือสวนปาล์มน้ำมันปลูกใหม่ ซึ่งยางพาราและ ปาล์มน้ำมันต้องใช้ระยะเวลา
ตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บ ผลผลิตได้นานถึง 4 ปี รวมทั้งขมิ้นชันเป็นพืชที่ต้านทานโรคและแมลง
อีกทั้งยังไม่เป็นพาหนะของโรคในสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี
และเก็บรักษาผลผลิตไว้ได้เป็นเวลานาน |
การคัดเลือกพื้นที่ปลูก จะเลือกปลูกบนพื้นที่ไม่มีการใช้สารเคมีอย่างน้อย
2 ปี จากนั้นจะปลูกถั่วดำ เป็นพืชปุ๋ยสดปรับปรุง
บำรุงดินโดยหว่านในอัตรา 4 กก./ไร่
เมื่อถั่วดำออกดอกจะไถกลบ ทิ้งไว้ 10-15 วัน
แล้วจึงปลูกขมิ้นชันโดยใช้ระยะปลูก 30x80 ซม. การดูแลรักษา
จะใส่ปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ในอัตรา 500 กก./ไร่ เมื่อต้นอายุ 1 เดือน จะฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
ในอัตรา 1:500 ทุกๆ 7-10 วัน
และกำจัดวัชพืชทุกๆ 3 เดือน
โดยสามารถเก็บเกี่ยวขมิ้นชันเมื่ออายุได้ 9 เดือน |
ขมิ้นชันที่ปลูกโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขมิ้นชันปลอดสารพิษจะมีสารเคอร์คูมินสูงถึง
20% ซึ่งถือว่าสูง เมื่อเปรียบเทียบ กับขมิ้นชันที่ปลูกในแหล่งปลูกอื่น
ๆ ที่มีปริมาณสารเคอร์คูมินเฉลี่ยเพียง 6% สำหรับกลุ่มฯ
จะรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกในราคาประกัน กิโลกรัมละ 8 บาท
ซึ่งถือว่าสูงกว่าราคาขมิ้นทั่วไปที่ขายเพียงกิโลกรัมละ 4-5 บาท การปรับปรุง บำรุงดินทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 2,500-2,700
กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริมมากถึง 20,000 บาทต่อไร่ |